กุนซือของสโลวาเกียตำหนิอังกฤษว่าเล่นถ่วงเวลาน่าเกลียดเกินไป

[Pepsinews]

​

ฟรานเชสโก้ คัลโซน่า กุนซือทีมชาติสโลวาเกีย ออกโรงวิจารณ์ทีมชาติอังกฤษที่ถ่วงเวลาในช่วงต่อเวลาพิเศษ และเชื่อว่าพวกเขาสมควรที่จะผ่านเข้ารอบมากกว่า “เด็ก ๆ ทำงานหนักมากและปฏิบัติตามสิ่งที่ผมเรียกร้องพวกเขา” คัลโซน่า บอกกับ สกาย อิตาเลีย “เราปล่อยให้พวกเขาเล่นง่ายขึ้นเล็กน้อยในครึ่งหลัง แต่นั่นเป็นสิ่งที่คาดหวังได้กับทีมในระดับนี้ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ มันเป็นการบุกแบบเที่ยวเดียว เราขึงพวกเขา และพวกเขาอาศัยการถ่วงเวลาและอุดเต็มพิกัด ผมโกรธเพราะการทดเวลาเพิ่มอีกแค่นาทีเดียวในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อเทียบกับการที่พวกเขาถ่วงเวลาโดยเฉพาะจากผู้รักษาประตูของพวกเขานั้นน้อยเกินไป ผมไม่ชอบการทำงานของผู้ตัดสินเลย แต่เราไม่แพ้เพราะเรื่องนั้นอย่างแน่นอน เราแพ้เพราะมีสิ่งรบกวนสมาธิอยู่บ้าง แต่ชัดเจนว่าผมภูมิใจกับทีมของผมมากในขณะที่เราเล่นฟุตบอลในแง่ดี มีผลงานที่ยอดเยี่ยม และผมคิดว่าชาวสโลวาเกียจะภูมิใจกับสิ่งนี้” คัลโซน่า กล่าวเสริม

ทั้งนี้ทีมชาติสโลวาเกีย เกือบสร้างเซอร์ไพรส์เอาชนะ อังกฤษ แล้วผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2024 แต่ จู๊ด เบลลิงแฮม ทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 95 จากนั้น แฮร์รี่ เคน ซัดประตูชัยช่วงต่อเวลาพิเศษพลิกแซงไปได้ 2-1

ดีแคลน ไรซ์ ออกโรงปกป้องทีม หลังมีกระแสถาโถมเข้ามา

ดีแคลน ไรซ์ กองกลางของอาร์เซนอล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยืนยันว่านักเตะทีมชาติอังกฤษทุกคนจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีม “สิงโตคำราม” ที่กำลังเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยอังกฤษเพิ่งตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศศึก ยูโร 2024 ได้สำเร็จ หลังจากพลิกนรกเอาชนะ สโลวาเกีย 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายชนิดที่มายิงตีเสมอช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายก่อนแซงชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งผลงานจากเกมดังกล่าวทำให้ เซาธ์เกต โดนกดดันอย่างหนักทั้งจากแฟนบอล, สื่อมวลชน รวมถึงบรรดานักวิเคราะห์ ไรซ์ กล่าวว่า “เรามีความสามัคคี เราพิสูจน์แล้วในค่ำคืนนี้ เราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผู้จัดการทีมคนนี้ เราจะปกป้องกันและกัน และจะเดินหน้าสู้ต่อไป และผลการแข่งขันนัดนี้ก็ตอบแทนความพยายามของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แม้มันจะไม่สวยหรู แต่ก็ถือเป็นเกียรติที่เราทุ่มเทเพื่อชาติ และเราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อไปจนสุดเส้นทาง” ขณะที่ จู๊ด เบลลิ่งแฮม เพลย์เมคเกอร์จาก เรอัล มาดริด กล่าวเสริมว่า “เราชนะเกมนี้ด้วยกัน ไม่ใช่ผม ไม่ใช่ แฮร์รี่ เคน ไม่ใช่ช่วงเวลาของความสำเร็จส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง โดยนักเตะอย่าง อิวาน โทนี่ย์, เอเบเรชี่ เอเซ่, โคล พาลเมอร์ และ บูกาโย่ ซาก้า ที่ต้องยอมไปเป็นแบ็คซ้ายก็มีส่วนสำคัญเหมือน ๆ กัน มันเป็นความเสียสละที่คุณทำเพื่อทีม และนั่นคือพลังงานที่เราต้องรักษาไว้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” ดาวเตะวัย 21 ปี ซึ่งซัดประตูตีเสมอต่อชีวิตให้ทีมได้อย่างหวุดหวิดในนาทีที่ 95 กล่าว อังกฤษ ภายใต้การนำของ เซาธ์เกต เก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเอาชนะ เซอร์เบีย 1-0 ในเกมแรก ก่อนที่จะเสมอ เดนมาร์ก และ สโลวีเนีย อย่างน่าผิดหวัง รวมถึงล่าสุดที่โดน สโลวาเกีย ขึ้นนำไปก่อน และต้องไปบดเก็บชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ เซาธ์เกต วัย 53 ปี กล่าวหลังจบเกมว่า “ชัดเจนว่าในครึ่งแรกเราครองบอลกันนานเกินไป และพวกเขาก็ช่วยกันปิดพื้นที่ในแดนกลางได้ดี ครึ่งหลังเราพยายามเปลี่ยนแปลง และผมคิดว่าสำหรับทีมชุดนี้ เราอดทนได้มาก เราพยายามเล่นอย่างใจเย็นและไม่ร้อนรน” ขณะเดียวกัน เซาท์เกต ยังเปิดเผยอีกว่า ทีมของเขามีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไขในศึก ยูโร 2024 หนนี้ แต่พวกเขาจะสร้างจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ และความเชื่อสำหรับการเกมต่อไปที่จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ ที่เพิ่งเขี่ย อิตาลี ตกรอบน็อคเอาท์

นายใหญ่พลพรรค “สิงโตคำราม” กล่าวว่า “เรากำลังปรับปรุงข้อผิดพลาด และให้โอกาสแก่นักเตะรุ่นเยาว์ และเรากำลังหาทางอยู่ แน่นอนเรายังอยู่ในการแข่งขัน และสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจตั้งคำถามได้คือความมุ่งมั่นและความปรารถนาของเราทุกคนในทีม” ตอนนี้เซาท์เกตเหลือสัญญากับอังกฤษถึงแค่เดือนธันวาคมนี้และยังไม่มีการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่แต่อย่างใด ซึ่งหาก “สิงโตคำราม” ไปไม่ถึงแชมป์ในยูโรครั้งนี้ ก็มีโอกาสสูงที่เจ้าตัวจะต้องโบกมืออำลำทีมและเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามาทำงานต่อไปในอนาคต​

​