Welcome!

By registering with us, you'll be able to discuss, share and private message with other members of our community.

SignUp Now!

ทำความรู้จักกับ เฟลิซิโอ บราวน์ หัวหอกอิมพอร์ตตัวใหม่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด

Pepsinews

Moderator
สมาชิกทีมงาน
Moderator
Registered
เข้าร่วม
15 มิ.ย. 2024
ข้อความ
415
felicio-brown-forbes-indian-super-league-2023-24-1708280795-129654.jpg
เมืองทอง ยูไนเต็ด คือสโมสรที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวผู้เล่นมากที่สุดก่อนเปิดฤดูกาล 2024-25 กับการมาของ เดนิส บุสน์ญ่า, กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก, จักพัน ไพรสุวรรณ, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์, สรวิทย์ พานทอง, อาลี่ ชิสโซโก้, สก็อตต์ วู๊ดส์, ยาค็อบ มาห์เลอร์, เอมิล โรบัค และ อับบอส โอตาโคนอฟ ซึ่งรวมแล้วก็ 10 ราย ที่เป็นสมาชิกใหม่ในรั้ว ธันเดอร์โดม ทว่าพวกเขายังไม่หยุดเสริมทัพเพียงเท่านี้ เนื่องจากเพิ่งจะได้ เฟลิซิโอ บราวน์ ศูนย์หน้าร่างใหญ่มาเพิ่มอีกหนึ่งคน ซึ่งหัวหอกเจ้าของส่วนสูง 1.89 เมตร เกิดที่เบอร์ลิน ซึ่งเป็นแดนกำเนิดของผู้เป็นมารดาขณะที่บิดาของเขาเป็นชาวคอสตาริกา แรกเริ่มบนเส้นทางลูกหนังของ บราวน์ คือการเป็นเยาวชนของ แอฟฟา วันน์ซี สโมสรท้องถิ่นในละแวกบ้าน ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาฝีเท้า กระทั่งถูกดึงตัวเข้าสู่อะคาเดมี่ของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ทีมดังประจำเมือง อย่างไรก็ตาม พอได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรก เขาไปเริ่มต้นกับ เนิร์นแบร์ก แต่ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกสู่ทีมชุดใหญ่ได้ เลยถูกปล่อยให้ คาร์ล ไซสส์ เยน่า และ โร๊ต-ไวส์ โอเบอร์เฮาเซิ่น ทีมใน ลีกา 3 เยอรมัน ยืมตัว ในห้วงเวลาที่เล่นอยู่ลีกล่าง บราวน์ ถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมัน รุ่นอายุไม่เกิน 19 และ 20 ปี อยู่เป็นประจำ ซึ่งก็มีผู้เล่นอย่าง มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น, แบรนด์ เลโน่, นิคลาส ฟุลล์ครุก และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เป็นเพื่อนร่วมทัพ พอหมดสัญญากับ เนิร์นแบร์ก เขาไปต่อที่ แฟร้งค์เฟิร์ต ชุดสำรอง และก็อยู่ได้ราวๆ ครึ่งปี ก็ออกไปหาความท้าทายใหม่ในรัสเซีย ในปี 2013

คีร์เลีย โซเวตอฟ คือสโมสรแรกของ บราวน์ บนแผ่นดินหมีขาว ซึ่งการมาที่นี่ก็ช่วยทำให้เขาตัดสินใจเลือกเล่นให้ทีมชาติคอสตาริกา ตามสายกำเนิดของบิดา เขาใช้ชีวิตที่รัสเซียอยู่นานพอสมควร เพราะต่อจาก คีร์เลีย โซเวตอฟ เจ้าตัวก็โยกสู่ ยูฟ่า ตามด้วย รอสตอฟ กระทั่งไปเฉิดฉายที่ อาร์เซน่อล ทูล่า จนถูก อันจิ มาคัชคาล่า ทีมหัวตาราง รัสเซียน พรีเมียร์ลีก มาดึงตัวไปเสริมทัพ ทว่าผลงานของเขากับทัพอินทรีเหลืองไม่เป็นไปตามความคาดหวัง จนต้องย้ายอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น อัมการ์ เปรัม ที่ต้อนรับขับสู้ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ บราวน์ อีกครั้ง หลังจากค้าแข้งที่รัสเซีย 7 ฤดูกาล เขาโบกมืออำลาดินแดนแห่งความหนาวเหน็บไปล่าความสำเร็จต่อที่โปแลนด์ โคโรน่า เคียลเซ่ คือปลายทางแห่งแรก ก่อนจะไประเบิดฟอร์มสุดยอดกับการทำไป 10 ประตูจาก 27 นัด ที่ ราคอฟ เชสตอโชวา จากผลงานอันโดดเด่น บราวน์ เลยได้ย้ายสู่ทีมเบอร์ต้นๆ ของโปแลนด์ อย่าง วิสล่า คราคอฟ ในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งก็ยังรักษามาตรฐานได้ต่อเนื่อง แม้จะยิงไม่มากเท่าต้นสังกัดเก่า แต่เขาก็สร้างประโยชน์ให้มากมาย พอหมดสัญญา เขาปรารถนาที่จะหาความท้าทายใหม่ ว่าแล้วจึงตัดสินใจลัดฟ้าข้ามทวีปมาโลดแล่นที่เอเชีย โดยมี อู๋ฮั่น แยงซี เป็นทีมที่เจ้าตัวเลือกจรดปากกา กับ อู๋ฮั่น นั้นผลงานของทีมค่อนข้างย่ำแย่เพราะต้องหล่นชั้นไปเล่นลีกรอง และมีสถิติยิงได้เพียง 22 ประตู ซึ่งตัว บราวน์ ซัดคนเดียว 12 ลูก หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของทีมเลยทีเดียว จากเหตุนี้เอง แม้ว่า อู๋ฮั่น จะตกชั้น แถมต้องยุบสโมสรไปด้วย แต่หัวหอกเชื้อสายเยอรมัน ยังได้รับความสนใจจากทีมอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายเขาก็เลือกเซ็นสัญญากับ ชิงเต่า ไห่เหนียว ในซีซั่น 2023 การผจญภัยครั้งใหม่ของ บราวน์ เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2024 เพราะเลือกย้ายไปลีกอินเดีย กับ อีสต์ เบงกอล สโมสรเดียวที่มี คเลตอน ซิลวา อดีตศูนย์หน้า เมืองทอง เป็นกัปตันทีม ทว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้นั้นทำในระยะสั้นและด้วยความที่เขาปรับตัวเข้ากับดินแดนภารตะได้ไม่ดีนัก ทำให้ศูนย์หน้าวัย 32 ปี กลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน บราวน์ ย่อมได้รับความสนใจจากหลายสโมสรเช่นเคย แต่เป็น เมืองทอง ที่ได้ลายเซ็นของเขาไปครอง สไตล์การเล่นของหัวหอกทีมชาติคอสตาริกาอาจจะไม่หวือหวานัก แต่ประโยชน์ของหมอนี่มีคณานับ เพราะสามารถเป็นตัวพักบอลก็ได้ วิ่งหลอกก็ดี หรือถ้ามีโอกาสสับไก เขาก็ทำได้เฉียบขาดเช่นกัน ในวัย 32 ปี กับความท้าทายใหม่ใน ไทยลีก 2024-25 น่าจะเป็นอะไรที่น่าดูชมทีเดียว​
 
กลับ
บน