- เข้าร่วม
- 15 มิ.ย. 2024
- ข้อความ
- 415
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือสโมสรที่มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือมากที่สุดทีมหนึ่งของเมืองไทย เพราะนับตั้งแต่ปี 2010 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน พวกเขาใช้เฮดโค้ชมาแล้วถึง 10 คน โดยมี โบซิการ์ บันโดวิช กับ อเล็กซานเดร กามา ที่ได้กลับมาคุมทัพสองช่วง 2 เวลา แน่นอนว่าในบรรดาเทรนเนอร์เหล่านี้ ส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จซะด้วย การันตีถ้วยรางวัลที่ไหลหลั่งเข้าสู่รั้ว ช้าง อารีน่า แทบจะทุกซีซั่น แต่ก็อีกนั่นแหละ ต่อให้มีโทรฟี่มากเท่าไร ต่อให้ผลงานเจิดจรัสเพียงไหน ความเปลี่ยนแปลง ก็มักจะเกิดขึ้นกับปราสาทสายฟ้าอยู่เสมอ ขนาด มาซาทาดะ อิชิอิ ทำทีมได้ เทรเบิ้ลแชมป์ ของประเทศ ยังต้องแยกทางกลางคันเลย นั่นเป็นเพราะพวกเขาคือสโมสรที่ไม่เคยหยุดกระหายต่อความสำเร็จ จึงต้องมีการหาเชื้อไฟใหม่ๆ มาเติมอยู่เสมอ เพื่อให้ทีมได้รับการกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา มันจึงทำให้ ออสมาร์ ลอสส์ กุนซือวัยเพียง 48 ปี บินลัดฟ้าจากบราซิล สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ
ชายหนุ่มจากเมืองริโอ กรานเด โด ซูล เติบโตบนเส้นทางโค้ชตั้งแต่อายุเพียง 34 ปี โดยงานแรกของเขาคือการคุมทีมเยาวชนของ อินเตอร์นาซิอองนาล สโมสรในบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม ปลายปี 2009 เขาจับพลัดจับผลูไปเป็นกุนซือ ชูเวนตูเด้ ทีมในลีกรองบราซิล แต่ด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิด จึงอยู่ได้เพียง 8 เดือน เท่านั้น ก็ต้องแยกทางกัน ห้วงเวลาระหว่างปี 2010-2012 ออสมาร์ ลอสส์ วนเวียนอยู่กับ อินเตอร์นาซิอองนาล และ ฟลูมิเนเซ่ ชุดเยาวชน โดยถูกแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชรักษาการของ อินเตอร์นาซิอองนาล อยู่เป็นช่วงๆ โดยมีหนหนึ่งที่ขัดตาทัพก่อนที่ ดุงก้า ตำนานนักเตะบราซิล จะมารับงานต่อ กระทั่งปี 2013 เขาก็โยกไป โครินเธียนส์ รุ่นยู-20 ซึ่งที่นี่แหละที่ทำให้เขาเริ่มเฉิดฉายพอสมควร โดยเฉพาะการพาทีมคว้าแชมป์ลีกเยาวชนในประเทศ จนผลงานเข้าตาบอร์ดบริหารและก้าวขึ้นไปคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2018 ทว่าผลงานของ โครินเธียนส์ ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มันจึงทำให้ ออสมาร์ ลอสส์ ต้องกลับมาเป็นผู้ช่วยอีกครั้ง
ปี 2019 เขาออกเดินทางใหม่ โดยคราวนี้ไปคุม กัวรานี่ สโมสรในระดับ เซเรีย บี ต่อด้วย วิคตอเรีย ในปีเดียวกัน แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นนัก ออสมาร์ ลอสส์ กลับมา อินเตอร์นาซิอองนาล อีกครั้งระหว่างปี 2020-2021 โดยคราวนี้รับบทผู้ช่วยกุนซือ พร้อมกับทำหน้าที่รักษาการเฮดโค้ชตามเคย ก่อนจะไป เซียนอร์เต้ ทีมจาก เซเรีย ดี ในช่วงสั้นๆ ของปี 2022 ความท้าทายครั้งใหม่ของเขาเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของ 2022 เพราะมีการทาบทามจากลีกอิหร่าน ให้ไปนั่งตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของ ยาห์ยะ โกลโมฮัมมาดี้ กุนซือ เปอร์เซโปลิส สโมสรดังของที่นั่น นี่คือครั้งแรกที่เขาออกมาทำงานนอกประเทศ และแม้จะต้องเผชิญกับวัฒนธรรมใหม่ รวมถึงฟุตบอลที่ไม่เหมือนกับบราซิล ทว่า ออสมาร์ ลอสส์ ก็ไปได้สวย โดยเฉพาะตอนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเทรนเนอร์ เปอร์เซโปลิส กลางซีซั่น 2023-24 แทนที่ โกลโมฮัมมาดี้ เขาพาทีมแพ้เพียงเกมเดียว ก่อนจะจบด้วยตำแหน่งแชมป์อิหร่าน โดยมีแต้มเหนือ เอสเตกัล เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น แม้จะมีโทรฟี่แรกติดมือเป็นเกียรติประวัติ ทว่า ออสมาร์ ลอสส์ เลือกที่จะมาหาความท้าทายใหม่ในเมืองไทย กับ บุรีรัมย์ ที่กำลังจะเริ่มต้นฤดูกาล 2024-25 ในเดือนสิงหาคม
สไตล์ของเขาชื่นชอบเกมรุก โดยมักจะใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก แต่ก็สามารถยืดหยุ่นได้ตามแต่คู่แข่งขันจะเป็นใคร ออสมาร์ ลอสส์ นับเป็นกุนซือคนที่ 12 ของปราสาทสายฟ้า นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา และเขาจะอยู่จนครบสัญญา พร้อมกับพาทีมไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่นั้น ไทยลีก 2024-25 ที่จะเปิดฉากในเดือนสิงหาคม จะตอบทุกอย่างเอง
ชายหนุ่มจากเมืองริโอ กรานเด โด ซูล เติบโตบนเส้นทางโค้ชตั้งแต่อายุเพียง 34 ปี โดยงานแรกของเขาคือการคุมทีมเยาวชนของ อินเตอร์นาซิอองนาล สโมสรในบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม ปลายปี 2009 เขาจับพลัดจับผลูไปเป็นกุนซือ ชูเวนตูเด้ ทีมในลีกรองบราซิล แต่ด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิด จึงอยู่ได้เพียง 8 เดือน เท่านั้น ก็ต้องแยกทางกัน ห้วงเวลาระหว่างปี 2010-2012 ออสมาร์ ลอสส์ วนเวียนอยู่กับ อินเตอร์นาซิอองนาล และ ฟลูมิเนเซ่ ชุดเยาวชน โดยถูกแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชรักษาการของ อินเตอร์นาซิอองนาล อยู่เป็นช่วงๆ โดยมีหนหนึ่งที่ขัดตาทัพก่อนที่ ดุงก้า ตำนานนักเตะบราซิล จะมารับงานต่อ กระทั่งปี 2013 เขาก็โยกไป โครินเธียนส์ รุ่นยู-20 ซึ่งที่นี่แหละที่ทำให้เขาเริ่มเฉิดฉายพอสมควร โดยเฉพาะการพาทีมคว้าแชมป์ลีกเยาวชนในประเทศ จนผลงานเข้าตาบอร์ดบริหารและก้าวขึ้นไปคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2018 ทว่าผลงานของ โครินเธียนส์ ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มันจึงทำให้ ออสมาร์ ลอสส์ ต้องกลับมาเป็นผู้ช่วยอีกครั้ง
ปี 2019 เขาออกเดินทางใหม่ โดยคราวนี้ไปคุม กัวรานี่ สโมสรในระดับ เซเรีย บี ต่อด้วย วิคตอเรีย ในปีเดียวกัน แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นนัก ออสมาร์ ลอสส์ กลับมา อินเตอร์นาซิอองนาล อีกครั้งระหว่างปี 2020-2021 โดยคราวนี้รับบทผู้ช่วยกุนซือ พร้อมกับทำหน้าที่รักษาการเฮดโค้ชตามเคย ก่อนจะไป เซียนอร์เต้ ทีมจาก เซเรีย ดี ในช่วงสั้นๆ ของปี 2022 ความท้าทายครั้งใหม่ของเขาเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของ 2022 เพราะมีการทาบทามจากลีกอิหร่าน ให้ไปนั่งตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของ ยาห์ยะ โกลโมฮัมมาดี้ กุนซือ เปอร์เซโปลิส สโมสรดังของที่นั่น นี่คือครั้งแรกที่เขาออกมาทำงานนอกประเทศ และแม้จะต้องเผชิญกับวัฒนธรรมใหม่ รวมถึงฟุตบอลที่ไม่เหมือนกับบราซิล ทว่า ออสมาร์ ลอสส์ ก็ไปได้สวย โดยเฉพาะตอนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเทรนเนอร์ เปอร์เซโปลิส กลางซีซั่น 2023-24 แทนที่ โกลโมฮัมมาดี้ เขาพาทีมแพ้เพียงเกมเดียว ก่อนจะจบด้วยตำแหน่งแชมป์อิหร่าน โดยมีแต้มเหนือ เอสเตกัล เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น แม้จะมีโทรฟี่แรกติดมือเป็นเกียรติประวัติ ทว่า ออสมาร์ ลอสส์ เลือกที่จะมาหาความท้าทายใหม่ในเมืองไทย กับ บุรีรัมย์ ที่กำลังจะเริ่มต้นฤดูกาล 2024-25 ในเดือนสิงหาคม
สไตล์ของเขาชื่นชอบเกมรุก โดยมักจะใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก แต่ก็สามารถยืดหยุ่นได้ตามแต่คู่แข่งขันจะเป็นใคร ออสมาร์ ลอสส์ นับเป็นกุนซือคนที่ 12 ของปราสาทสายฟ้า นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา และเขาจะอยู่จนครบสัญญา พร้อมกับพาทีมไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่นั้น ไทยลีก 2024-25 ที่จะเปิดฉากในเดือนสิงหาคม จะตอบทุกอย่างเอง
