Welcome!

By registering with us, you'll be able to discuss, share and private message with other members of our community.

SignUp Now!

ราล์ฟ รังนิค กุนซือผู้ไปไม่สุดกับแมนยู สู่ผู้ที่พา ออสเตรีย เป็นม้ามืดในยูโร 2024

Pepsinews

Moderator
สมาชิกทีมงาน
Moderator
Registered
เข้าร่วม
15 มิ.ย. 2024
ข้อความ
415
Ralf-Rangnick-Austria-F365.jpg

ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคมปี 2021 ราล์ฟ รังนิค ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และก็ไม่ได้มีผลงานอะไรที่น่าจดจำมากนักทั้งสำหรับเจ้าตัว และ “ปีศาจแดง” เทรนเนอร์มากประสบการณ์ชาวเยอรมันคุมทีม แมนยูไนเต็ด ทั้งสิ้น 29 เกม ชนะ 11 เสมอ 10 และแพ้ 8 โดย รังนิค ไม่ได้รับความเคารพจากนักเตะมากนัก ยกตัวอย่างที่ คริสเตียโน โรนัลโด อดีตซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสระบุว่าไม่รู้มาก่อนว่าเขาเคยทำงานเป็นกุนซือด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หลังแยกทางกับ แมนยูไนเต็ด รังนิค ก็เข้ารับงานคุมทีมชาติออสเตรียต่อทันที และผลงานในศึก ยูโร 2024 ครั้งนี้ เจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำไมถึงได้รับการยกย่องว่าเป็น “ปรมาจารย์แห่งเกเก้นเพรสซิ่ง”

รังนิค พา ออสเตรีย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ดี โดยมีทีมอย่าง ฝรั่งเศส, ฮอลแลนด์ และ โปแลนด์ อยู่ร่วมกลุ่มด้วย และรอบต่อไป นายใหญ่วัย 65 ปี จะพาทีมเข้าไปพบกับ ตุรกี ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนทัวร์นาเมนต์ยูโร จะเริ่มขึ้น รังนิค ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อด้วยการพา ออสเตรีย เอาชนะทีมอย่าง อิตาลี และ เยอรมัน รวมถึงเสมอกับ เบลเยียม และ ฝรั่งเศส ในเกมอุ่นเครื่อง ก่อนจะสร้างเซอร์ไพรส์เอาชนะ ฮอลแลนด์ 3-2 ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม มาร์เซล ซาบิทเซอร์ กองกลางกัปตันทีมชาติออสเตรีย กล่าวว่า “คุณสามารถเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนของเราตั้งแต่โค้ช (รังนิก) เข้ามาคุมทีม ก่อนหน้านี้ เราจะเล่นกับแบบเฉื่อยๆ และต่อบอลไปเรื่อยๆ แต่เราได้เปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นไปแล้วอย่างสิ้นเชิงตอนนี้เราแข็งแกร่งมากในการครองบอล ดังนั้น ทุกคนรู้ดีเมื่อเราเสียบอล เราต้องเปลี่ยนความคิดตัวเอง และไล่บอลทันที นั่นคือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” Tom Middler พิธีกรรายการพอดแคสต์ฟุตบอลออสเตรีย The Other Bundesliga กล่าวว่า “ฟรังโก โฟดา (อดีตกุนซือออสเตรีย) ทำให้ผู้เล่นของเขาตื่นตัวเมื่อพวกเขาพยายามบุกไปข้างหน้า และไล่กดดันโดยสัญชาตญาณ ดังนั้น สไตล์ในปัจจุบันจึงไม่สามารถแตกต่างไปจากเดิมมากนัก และดูเหมือนนักเตะจะเคารพและไว้ใจ รังนิค อย่างชัดเจน ซึ่งพวกเขาก็ดูมีความสุขมากกับการคุมทีมของเขา เนื่องจากฟุตบอลของเขาใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่คุ้นเคยจากสโมสร”

สตีเฟ่น วอร์น็อค อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “ผมดูออสเตรีย และวิธีที่พวกเขาจัดระเบียบทีม และการเคลื่อนที่ตอนไม่มีบอล มันเป็นการทำงานที่ยอดเยี่ยมมาก ผู้เล่นทุกคนได้ลงสนามและรู้ว่าโค้ชคาดหวังอะไรจากพวกเขา พวกเขาทำงานเป็นทีม และมีความโดดเด่นในเรื่องของระบบ”

ไซมอน สโตน หัวหน้าแผนกข่าวฟุตบอลของ BBC Sport กล่าวว่า “ราล์ฟ รังนิค แทบจะกลายเป็นตัวตลกเมื่อตอนที่เขาออกจาก แมนยูไนเต็ด ชนะ 2 นัดจาก 10 เกมสุดท้ายของเขาในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราว รวมถึงการพ่ายแพ้ 4 ประตูให้กับ ลิเวอร์พูล และ ไบรท์ตัน นั่นทำให้ความหวังของเขาที่จะได้รับงานผู้อำนวยการด้านเทคนิคนั้นหายอย่างสิ้นเชิง แต่ประวัติการทำงานของเขามันดูดีกว่าตอนทำงานที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาพูดถึงการผ่าตัดทีม และการประเมินสภาพของ แมนยูไนเต็ด ที่เขาพูดออกมาต่อสาธารณะ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มันเป็นจริงเกือบ 100% มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะมีความยอดเยี่ยมในฐานะผู้จัดการทีมชาติ โปรแกรมระดับนานาชาติดูจะเหมาะกับวิธีการวิเคราะห์และการมองเกมของเขาเพื่อให้มีเวลาให้เขาแก้ไขปรับจูนความคิดทัศนคติของนักเตะ เพื่อกำหนดแผนและแนวทางการวางระบบของเขา”​
 
กลับ
บน