Welcome!

By registering with us, you'll be able to discuss, share and private message with other members of our community.

SignUp Now!

สรุปผลบอล ยูโร 2024 ค่ำคืนวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมประเด็นที่น่าสนใจ

Pepsinews

Moderator
สมาชิกทีมงาน
Moderator
Registered
เข้าร่วม
15 มิ.ย. 2024
ข้อความ
415
Euro_2024_Soccer_Netherlands_France_75789.jpg

ศึกยูโร 2024 เมื่อคืนที่ผ่านมามีลงทำการแข่งขันกัน 3 คู่โดยเป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี ระหว่าง สโลวาเกีย ที่พบกับ ยูเครน รวมถึงสองคู่จาก กลุ่ม ดี โดยเป็นเกมระหว่าง โปแลนด์ กับ ออสเตรีย รวมถึงเกมบิ๊กแมทช์คู่ดึกระหว่าง ฝรั่งเศส กับ เนเธอร์แลนด์

สโลวาเกีย 1-2 ยูเครน

(ชรานซ์ 17 / ชาปาเรนโก้ 54 ยาเรมชุค 80)

เกมที่ ดุสเซลดอร์ฟ อารีนา สโลวาเกีย ออกนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 17 จาก อิวาน ชรานซ์ หลังจากนั้น ยูเครน พยายามเปิดเกมบุกแลกและมาได้ 2 ประตูในครึ่งหลังจาก มีโคลา ชาปาเรนโก้ นาทีที่ 54 หลังจากนั้น โรมัน ยาเรมชุค มายิงประตูชัยช่วยให้ ยูเครน แซงชนะไปได้ 2-1 ในที่สุด

โปแลนด์ 1-3 ออสเตรีย

(เปียเทก 30 / เทราเนอร์ 9 บอมการ์ทเนอร์ 66 อาร์เนาโตวิช 78)

เกมที่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม ออสเตรีย ออกนำเร็วจาก เกอร์นอต เทราเนอร์ ตั้งแต่นาทีที่ 9 หลังจากนั้น โปแลนด์ มาตีเสมอได้สำเร็จจาก คริซตอฟ เปียเทก นาทีที่ 30 จากนั้นครึ่งหลัง คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์ มายิงให้ ออสเตรีย ออกนำ 1-2 นาทีที่ 66 ท้ายเกม มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช มายิงจุดโทษส่ง ออสเตรีย คว้าชัยไปด้วยสกอร์ 3-1

เนเธอร์แลนด์ 0-0 ฝรั่งเศส

เกมที่ เรดบูลล์ อารีนา ต่างฝ่ายต่างเน้นเล่นอย่างรัดกุม แม้จะมีโอกาสลุ้นประตูแต่ก็ยังขาดความเฉียบคมกันทั้งสองฝ่าย โดยครึ่งหลัง เนเธอร์แลนด์ มีโอกาสส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จจาก ชาบี ซิมอนส์ แต่สุดท้าย VAR จับว่ามีจังหวะล้ำหน้าไปก่อน และจบ 90 นาทีไปด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ 0-0

ทัพตราไก่ยังไร้พิษสงในเกมรุก

แม้นัดแรก ขุนพล ''เลส์ เบลอส์" จะเฉือน ออสเตรีย ไปด้วยสกอร์ 1-0 แต่ประตูชัยที่พวกเขาได้มาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง อ็องตวน กรีซมันน์ ควรจะมีชื่อเป็นผู้ผลิตสกอร์ในนัดนี้ แต่กลับพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาได้โอกาสลุ้นทำประตูไป 4 ครั้งในครึ่งแรก จากโอกาสยิง 5 ครั้งของทีม เฉพาะอย่างยิ่งจังหวะที่ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้หลุดเข้าไปก่อนจะจิ้มบอลไปให้เขา แต่บอลมันดันย้อนหลัง กรีซมันน์ ไปเล็กน้อย ทำให้เจ้าตัวยิงไม่ถนัด แถมในครึ่งหลังเขาได้โอกาสยิงจ่อ ๆ ในกรอบ 6 หลา แต่ไปติดเซฟ บาร์ท แฟร์บรู๊กเก้น จอมหนึบดัตช์ สองนัดแรก ฝรั่งเศส สร้างโอกาสลุ้นทำประตูไปทั้งหมด 29 ครั้ง ตรงกรอบ 6 แต่ไม่มีชื่อนักเตะฝรั่งเศสทำประตูสักคนเดียว ถือเป็นครั้งแรกของพวกเขาที่เตะสองเกมแรกในศึก ยูโร รอบแบ่งกลุ่ม รอบสุดท้ายโดยที่ไม่มีชื่อผู้เล่นพวกเขาผลิตสกอร์

เมื่อทีมไร้ซึ่ง เอ็มปัปเป้

ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทัพ ''เลส์ เบลอส์'' ตัดสินใจไม่ส่ง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ที่จมูกแตกจากเกมแรกลงเล่นในนัดนี้แม้แต่นาทีเดียว แม้ดูเหมือนว่าเจ้าตัวอยากจะลงเล่นก็ตาม กุนซือวัย 55 ปี วางหมาก 4-4-1-1 โดยที่แดนกลาง 4 ตัว เป็น ราบิโอต์ (ริมเส้นฝั่งซ้าย), ชูอาเมนี่, ก็องเต้, เดมเบเล่ โดยมี กรีซมันน์ เป็นหน้าต่ำคอยสนับสนุน ตูราม ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ เกมรุกทางกราบซ้ายของพวกเขาดูขาดมิติไปอย่างเห็นได้ชัด โดยทาง เตโอ แอร์กน็องเดซ แบ็กซ้ายจอมบุกที่มักเติมสูงเป็นประจำ ขาดการประสานงานหรือเล่นร่วมกันกับเพื่อนร่วมทีมตรงริมเส้นฝั่งซ้าย ทำให้ความอันตรายสำหรับเกมรุกทางฝั่งนั้นลดลงไปเยอะ เมื่อไม่มีนักเตะอย่าง เอ็มบัปเป้ อยู่ในสนาม อาเดรียง ราบิโอต์ ถูกสั่งให้ไปยืนริมเส้นฝั่งซ้ายเวลายืนป้องกัน โดยเวลาบุกหรือสร้างเกมรุกจะยืนเป็นมิดฟิลด์ตามปกติ และเติมเกมรุกทางด้านซ้ายเป็นบางครั้ง แม้หลาย ๆ จังหวะ ราบิโอต์ จะทำได้ดีก็ตาม แต่เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่มีความเร็วแบบปีกที่ทะลุทะลวง หรือ ทำลายหลังบ้านคู่แข่ง​
 

กระทู้ที่คล้ายกัน

กลับ
บน