ข่าว โหมโรงเรื่องที่น่าสนใจ ก่อนเริ่มศึกยูโร 2024

[shtml]

เริ่มจากสถิติที่น่าสนใจกันก่อน โดยฟุตบอลยูโร 2024 หนนี้นั้นมีสถิติหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยนับตั้งแต่ที่มีการแข่งขันนี้ขึ้นมา เยอรมันถือเป็นชาติที่ได้เข้าร่วมรอบสุดท้ายมากที่สุดที่ 14 ครั้ง รองลงมาเป็นสเปนและรัสเซีย 11 ครั้ง ส่วนอันดับ 3 ฝรั่งเศส, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, สาธารณรัฐเช็ก และอังกฤษ ชาติละ 11 ครั้ง ขณะที่ในส่วนของนักเตะ คริสเตียโน โรนัลโด แห่งทีมชาติโปรตุเกส เป็นเจ้าของสถิติที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ มีชื่อติดทีมเล่นรอบสุดท้ายมากที่สุด (6 ครั้ง), ลงเล่นแมตช์รอบสุดท้ายมากที่สุด (25 แมตช์), ได้รับชัยชนะในรอบสุดท้ายมากที่สุด (12 แมตช์), ยิงประตูในรอบสุดท้ายมากที่สุด (14 ประตู) เป็นต้น ส่วนสถิติของนักเตะคนอื่นที่น่าสนใจ กาบอร์ คิราลี (ฮังการี) เป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ได้ลงสนามรอบสุดท้าย 40 ปี 86 วัน ในยูโร 2016, คัชเปอร์ อูร์บานสกี (โปแลนด์) เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามรอบสุดท้าย 17 ปี 246 วัน ในยูโร 2020, มิเชล พลาตินี (ฝรั่งเศส) เป็นนักเตะที่ยิงได้เยอะสุดภายในทัวร์นาเมนต์เดียว 9 ประตู ในยูโร 1984 เป็นต้น ด้านสถิติของผู้ฝึกสอน โยอาคิฟ เลิฟ (เยอรมัน) คุมทีมลงเตะในยูโรมากที่สุด 21 แมตช์ และเลิฟยังเป็นเจ้าของสถิติเก็บชัยได้มากสุดด้วย 12 แมตช์, แบร์ตี โฟกต์ส (เยอรมัน) เป็นคนเดียวที่เคยได้แชมป์ยูโรทั้งในฐานะนักเตะ (1972) และฐานะเฮดโค้ช (1996)

ยูโรครั้งนี้มีทีมหน้าใหม่เข้ามาพอสมควร รวมถึงทีมที่เคยคว้าแชมป์มาหลายครั้งแล้ว

ในศึกยูโร 2024 หนนี้ เกือบทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาได้ล้วนแต่เคยมีประสบการณ์ร่วมแข่งขันกันมาแล้วไม่มากก็น้อย ยกเว้นเพียง จอร์เจีย ที่ได้เข้าร่วมแข่งขันหนแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม นอกจากจอร์เจียแล้วก็ยังมีอีก 5 ประเทศ ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังได้ร่วมเตะยูโรไม่ถึง 5 ครั้ง ได้แก่ สกอตแลนด์, ออสเตรีย, ยูเครน ต่างเข้าร่วมเป็นครั้งที่ 4 ส่วนแอลเบเนีบและสโลวีเนียเพิ่งได้เข้าร่วมครั้งที่ 2 สำหรับยูโร 2024 ถือเป็นศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่จัดขึ้นหนที่ 17 โดยก่อนหน้านี้ 16 ครั้ง เยอรมัน (รวมยุคเยอรมันตะวันตก) และสเปน เป็นแชมป์จำนวนสูงสุดเท่ากัน 3 สมัย รองลงมาเป็นอิตาลีและฝรั่งเศส ได้ไปชาติละ 2 สมัย ส่วนที่เหลือมีรัสเซีย (รวมยุคสหภาพโซเวียต), สาธารณรัฐเช็กและสโลวะเกีย (อดีตคือเชโกสโลวะเกีย), โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก และกรีซ ได้ไปชาติละ 1 สมัย ขณะที่เซอร์เบีย (รวมยุคยูโกสลาเวีย), เบลเยียม และอังกฤษ เป็นที่เคยเข้าชิงชนะเลิศแต่ยังไม่ได้แชมป์ นอกนั้นชาติอื่นๆ ยังไม่มีทีมไหนที่เคยเข้าชิงชนะเลิศเลย