Welcome!

By registering with us, you'll be able to discuss, share and private message with other members of our community.

SignUp Now!

ได้เวลาไล่ล่าแชมป์ โหมโรง การท่าเรือ เอฟซี ก่อนเริ่มฤดูกาล 2024/25

Pepsinews

Moderator
สมาชิกทีมงาน
Moderator
Registered
เข้าร่วม
15 มิ.ย. 2024
ข้อความ
415
รังสรรค์-วิวัฒน์ชัยโชค-ท่าเรือ.jpg
การท่าเรือ เอฟซี คือหนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดของสยามประเทศ ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังลูกหนังอันยาวนานกับการมีฐานแฟนฟุตบอลมหาศาลทั้งในกรุงเทพมหานครรวมไปถึงต่างจังหวัด ซึ่งคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่านี่คือทีมระดับ 'ตำนาน' ที่อยู่คู่กับลีกไทย มาหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม สิงห์เจ้าท่ามีห้วงเวลาที่ไม่ค่อยโสภาอยู่บ้าง โดยเฉพาะช่วงที่ต้องหล่นชั้นในซีซั่น 2013 และ 2016 กระทั่งการเข้ามาเทกโอเวอร์ของ 'มาดามแป้ง' คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ที่ทำให้ยอดทีมแห่งย่านคลองเตยกลับมามีชีวิตชีวาเต็มอัตราอีกครั้ง ซูเปอร์สตาร์ชาวไทย พ่วงด้วยโควตาต่างชาติที่คัดเกรดมาอย่างดีตบเท้าเข้าสู่รั้ว แพท สเตเดี้ยม กันจ้าละหวั่น และแน่นอนว่าด้วยศักยภาพผู้เล่น ประกอบกับเม็ดเงินที่ลงทุนไป ย่อมยกระดับให้พวกเขาทะยานขึ้นไปเกาะกลุ่มบนของตารางได้แบบไม่ยากนัก

ทว่าการได้เพียงแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2019 และจบอันดับ 3 ของลีก 5 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด คงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาปรารถนาเพียงเท่านี้ นั่นจึงเป็นที่มาของการแต่งตั้ง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค หนึ่งในเฮดโค้ชชาวไทย ที่ปราดเปรื่องเรื่องการทำทีมยิ่งนัก 'โค้ชอ้น' เข้ามารับงานในเดือนพฤศจิกายน โดยมีผลงานชนะ 13, เสมอ 8 และแพ้ไปเพียง 3 เกม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดูน่าพึงพอใจ ดังนั้นการที่อดีตกองกลางทีมชาติไทยยังอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของ การท่าเรือ น่าจะต่อยอดจากฤดูกาล 2023-24 ได้ดีขึ้นแน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเสริมตัวผู้เล่นที่จะทำให้ทีมแข็งแกร่งกว่าเดิม ณ ปัจจุบัน พวกเขาได้ อิสซัค ฮอนี่ย์, วิลเลน โมต้า, ลอนซานา ดูมบูญ่า, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ชัยวัฒน์ บุราญ และ อีร์ฟาน ฟานดี้ เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ชื่อเหล่านี้การันตีคุณภาพระดับท็อป ไทยลีก ด้วยประสบการณ์นานหลายปีที่โลดแล่นในเวทีสูงสุดของดินแดนขวานทอง แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้างตรงที่คว้ามาทั้ง โมต้า และ ดูมบูญ่า ซึ่งเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้ามากองกัน แถมตอนนี้ก็ยังมี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ที่รอวันเฉิดฉายอยู่อีกต่างหาก แต่นั่นคงไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับการพาทีมไปถึงฝั่งฝัน

เกมรับ คือสิ่งที่เป็นปัญหาของสิงห์เจ้าท่ามาช้านาน ซึ่งมันคือตัวฉุดรั้งความสำเร็จไม่ให้ยอดทีมแห่งย่านคลองเตยไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นการมาของ อิสซัค ฮอนี่ย์ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ แม้หมอนี่จะเป็นนักเตะที่สง่าราศีไม่สู้ดีนัก แต่เรื่องของประสิทธิภาพรับประกันได้เลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาทุกบาททุกสตางค์ นอกจากนี้ พีรดนย์ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญ ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเกมร่วมกับ โนโบรุ ชิมูระ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ โดยที่มี ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ รวมถึง ชานุกูล ก๋ารินทร์ ที่พร้อมสอดแทรกสู่ 11 ตัวจริง เมื่อประกอบร่างจากทุกตำแหน่ง การท่าเรือ จัดว่ามีขุมกำลังที่พร้อมลุ้นแชมป์ทุกรายการในประเทศแบบไม่ต้องสงสัย ผู้รักษาประตู สมพร ยศ มือหนึ่งยังไว้ใจได้เสมอ, ฟูลแบ็กสองฝั่ง ฟากขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ขับเคี่ยวกับ อัสนาวี่ มังกูอาลาม แถมยังมี ฟรานส์ ปูโตรส ที่ขยับมายืนได้ ส่วนทางซ้าย เควิน ดีรมรัมย์ จองพื้นที่ โดยได้ ชัยวัฒน์ จากลำพูน วอร์ริเออร์ มาคอยสแตนด์บาย แผงมิดฟิลด์ น่าจะลงตัวที่ ชิมูระ, พีรดนย์ กับ วรชิต ส่วนคนอื่นๆ แต่ละรายก็ล้วนดีกรีทีมชาติไทยทั้งนั้น แดนบน ด้านข้างหวือหวาด้วย บดินทร์ ผาลา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา รวมไปถึง เฟลิเป้ อโมริม ที่ยังอยู่ แถมทาง ปฐมพล ก็สามารถถ่างออกข้างเพื่อมาเล่นริมเส้นได้แบบไม่เคอะเขิน ทีนี้แดนหน้าอยู่ที่ว่า รังสรรค์ จะเลือกใช้ใคร ระหว่าง โมต้า, ดูมบูญ่า หรือ ธีรศักด์ แต่ก็อาจจะเปลี่ยนระบบมาเป็นการเล่นศูนย์หน้าคู่ก็เป็นได้

นี่คือภาพกว้างๆ ของ การท่าเรือ ที่แฟนๆ ต่างตั้งตารอด้วยใจจดจ่อ เพราะการที่ยังมี 'โค้ชอ้น' อยู่นั้นการันตีว่ามาตรฐานไม่ตกหล่นลงไปแน่ แต่จะต่อยอดไปได้ไกลเพียงใดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าก็เสริมทัพได้แบบที่ทุกสโมสรต้องอิจฉา แบงค็อก ยูไนเต็ด เองก็มาพร้อมแรงปรารถนาที่จะไต่ขึ้นสู่เบอร์หนึ่งของประเทศให้ได้สักที บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กระหายที่จะคัมแบ็กสู่บัลลังก์อีกครั้ง ยังมี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่น่าจับตามอง ด้วยย่างก้าวที่น่าสนใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ฤดูกาลที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นจะเป็นอีกซีซั่นที่การห้ำหั่นคงเข้มข้นเร้าใจในทุกๆ สัปดาห์ เพราะแต่ละทีมต่างต้องการไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้​
 
กลับ
บน